สื่อการสอนออนไลน์ คอร์ส Network ออนไลน์ สอนเน็ตเวิร์กด้วยอุปกรณ์ออฟไลน์ ขายอุปกรณ์สอนเน็ตเวิร์กแบบออฟไลน์ จำหน่ายอุปกรณ์สอนแบบออฟไลน์ อุปกรณ์เรียนเน็ตเวิร์ก ขายอุปกรณ์ ขายคอร์สอบรม
วันพุธ, มิถุนายน 10, 2558
วันอังคาร, มิถุนายน 09, 2558
การทำรูปติดบัตร 1 นิ้ว และ 2 นิ้ว สำหรับส่งอัดร้านถ่ายรูปดิจิตอล
แต่ก่อนที่จะลงมือทำเราจำเป็นจะต้องรู้สัดส่วนของรูปที่นำมาติดบัตรขนาดทั่วๆไปก่อน
ดังนี้
ขนาด 1 นิ้ว = 2.50 x 3.25 เซนติเมตร
ขนาด1.5 นิ้ว = 3.00 x 4.00 เซนติเมตร
ขนาด 2 นิ้ว = 4.00 x 5.23 เซนติเมตร
ขนาด 2.5 นิ้ว = 4.75 x 6.25 เซนติเมตร
ขนาด 3 นิ้ว = 6.15 x 7.80 เซนติเมตร
ขนาด1.5 นิ้ว = 3.00 x 4.00 เซนติเมตร
ขนาด 2 นิ้ว = 4.00 x 5.23 เซนติเมตร
ขนาด 2.5 นิ้ว = 4.75 x 6.25 เซนติเมตร
ขนาด 3 นิ้ว = 6.15 x 7.80 เซนติเมตร
ส่วนรูปขนาดจัมโบ้ จะเป็น 4 x
6 นิ้ว หรือเท่ากับ 10 x 15 เซนติเมตร
โดยการเตรียมรูปที่จะนำมาใช้นั้น
ความละเอียดของรูปแนะนำว่าให้ใช้เป็น 300 dpi เพราะจะให้รูปที่ออกมาได้ภาพที่คมชัดสุด
ยกตัวอย่างการทำรูปติดบัตรขนาด 1 นิ้ว ด้วยโปรแกรม Photoshop
มีขั้นตอน ดังนี้
1. เปิดโปรแกรม Photoshop
ขึ้นมา คลิกที่คำสั่ง File > New แล้วกำหนดค่า
ดังนี้
- Width = 2.5 cm, Height = 3.25 cm
- Ressolution = 300 pixels/inch
- Color Mode = CMYK Color เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK
2. จากนั้นไปที่คำสั่ง File
> Place เพื่อนำรูปที่ต้องการมาวางในไฟล์งานนี้
3. เลือกรูปที่ต้องการนำมาติดหน้าบัตร
(รูปนี้ใช้เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น)
4. ปรับขนาดรูปโดยคลิกที่ตำแหน่งมุมของภาพ
กดปุ่ม Shift
พร้อมขยายรูปให้เต็มกรอบ
แล้วย้ายตำแหน่งรูปให้ได้มุมที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter
5. เพิ่มเลเยอร์ใหม่ขึ้นมา
โดยคลิกปุ่ม Create a new layer แล้วคลิกเครื่องมือ Rectangle
Marquee Tool วาดกรอบรูปให้เว้นขอบนอกไว้เล็กน้อย ดังรูป
6. ไปที่คำสั่ง
Select > Inverse เพื่อให้เลือกพื้นที่ตรงกันข้ามกับเส้น Selection
ที่เราเลือก ดังรูป
7. คลิกที่เครื่องมือ Set
Forground Color จะมีหน้าต่าง Color Picker ให้เราเลือกเป็นสีขาวแล้วคลิกปุ่ม
OK
ยกเลิกเส้น
Selection
โดยไปที่ Select > Deselect
9. ให้เราลบเลเยอร์ Background
ทิ้ง โดยเลือกที่เลเยอร์แล้วคลิกที่รูปถังขยะ แล้วทำการรวมเลเยอร์ทั้งหมดโดยคลิกเลือก เลเยอร์ (กดปุ่ม Ctrl
+ Layer ที่ต้องการ) คลิกขวาเลือกคำสั่ง Merge
Layer
10. เมื่อเราได้รูปที่ต้องการแล้ว
เพื่อป้องการเมื่อเรานำรูปไปใช้งานแล้วมีส่วนเกินออกมาให้เราทำการ Crop
รูป โดยเลือก
เครื่องมือ Crop Tool ลากคลุมเฉพาะในกรอบรูปที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter ดังรูป
เครื่องมือ Crop Tool ลากคลุมเฉพาะในกรอบรูปที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter ดังรูป
11. ต่อไปก็ใส่เส้นขอบโดยใช้ฟังก์ชั่น
Add a layer style > Stroke… ที่หน้าต่าง
Layer Styleให้กำหนดค่าดังนี้
12. เมื่อเราใส่เส้นขอบเรียบร้อยแล้วให้เราทำการบันทึกรูป
โดยไปที่คำสั่ง File > Save AS เลือกตำแหน่งที่ต้องการบันทึก
ตั้งชื่อไฟล์ที่ช่อง File name ที่ช่อง Format เลือกนามสกุลไฟล์ที่ต้องการจัดเก็บเป็น JPEG แล้วคลิกปุ่ม
OK
13. จากนั้นเราจะนำรูปที่ทำเป็นขนาด
1 นิ้วแล้วไปวางบนขนาดรูปจัมโบ้ (4x6
นิ้ว) โดยสร้างไฟล์งานใหม่ขึ้นมาไปที่คำสั่งFile > New ที่หน้าต่าง New กำหนดค่า ดังนี้
- Width = 10 cm, Height = 15 cm (ขนาดของรูป 4x6 นิ้ว)
- Resolution = 300 pixels/inch
- Color Mode = CMYK Color (สีที่ใช้สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์)
14. เมื่อได้ไฟล์งานใหม่แล้วก็ให้เราไปนำรูปที่ทำเป็นขนาด
1
นิ้วมาวาง โดยไปที่คำสั่ง File > Place เลือกตำแหน่งที่จัดเก็บรูป
> เลือกรูป > คลิกปุ่ม Place
แล้วกดปุ่ม Enter อีกครั้งเพื่อวางรูป
16. เมื่อได้ตำแหน่งของรูปที่หนึ่งแล้วให้เราคัดลอกแล้ววางเรียงซ้อนกันจนครบตามต้องการ
โดยกดปุ่ม Alt + Shift ที่คีย์บอร์ดค้างไว้พร้อมลากรูปออกมา
เป็นการคัดลอกรูปโดยที่รูปจะอยู่ในระนาบเดียวกัน ดังนี้ (ทุกครั้งที่คัดลอกหนึ่งรูปจำนวนเลเยอร์ก็จะเพิ่มขึ้นมารูป) รูปขนาดจั้มโบ้ 4x6
นิ้ว จะสามารถวางรูปขนาด 1 นิ้วได้ประมาณ 16
รูป
แล้วบันทึกเป็นไฟล์ JPEG
ไปให้กับทางร้าน เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ
วันจันทร์, มิถุนายน 08, 2558
วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 28, 2558
วันเสาร์, พฤษภาคม 23, 2558
การจัดเรียงข้อมูลด้วยฮาร์ดดิสก์ Disk Defragment
Defragment หรือ Defragmentation คือการสั่งให้ฮาร์ดดิสก์จัดเรียงข้อมูลใหม่
ซึ่งตามปกติแล้วฮาร์ดดิสก์จะจัดเก็บข้อมูลแบบสุ่ม ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ฮาร์ดดิสก์จัดเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
แต่ผลเสียที่ตามมาในระยะยาวนั้นก็คือต้องใช้เวลาในการหาไฟล์ต่างๆ เป็นเวลานานขึ้น เป็นเหตุให้ฮาร์สดิสของเราทำงานได้ช้าลงด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่การแก้ไข ย้ายไฟล์ หรือลบไฟล์ต่างๆ
ก็ทำให้เกิดการจัดเรียงไม่ได้ถูกจัดเรียงด้วยนั้นเอง
Defragment เป็นโปรแกรมหรือคำสั่งที่ติดมากับระบบปฏิบัติการของวินโดว์อยู่แล้ว
จึงไม่จำเป็นต้องหามาติดตั้งเอง วิธีการจัดเรียงข้อมูลด้วยคำสั่ง Defragmentation ( แต่ละวินโดว์จะใช้คำสั่งไม่เหมือนกันแต่คือชุดคำสั่งเดียวกันครับ
ตัวอย่างนี้เป็น Windows 7)
1. ดับเบิ้ลคลิกที่ My Computer คลิกขวาเลือกไดรฟ์ที่เก็บข้อมูล เช่น Drive (C:) จากนั้นคลิกคำสั่ง Properties > คลิกแท็บ Tools > จากนั้นคลิกที่คำสั่ง Defragment now... (หรือไปที่ Start > Accessories > System Tools > เลือก Disk Defragmenter ก็ได้เช่นกัน)
3.เลือกไดรฟ์ที่ต้องการและคลิกเลือกปุ่ม Analyze disk หรือ Defragment disk ได้เลย (ถ้าข้อมูลมีการกระจายมากหรือพื้นที่ของไดรฟ์ขนาดใหญ่อาจใช้เวลานานพอสมควร) เสร็จแล้วเปอร์เซ็นของ Fragmented จะเป็น 0% นั้นคือไม่มีการกระจายของข้อมูลในไดร์ฟของเราแล้ว
เราสามารถตั้งเวลาให้ทำการจัดเรียงข้อมูลเอง
โดยตั้งได้ผ่านคำสั่ง Configure
schedule… เลือกให้ทำเป็นแบบนี้ ทุกวัน/วัน/เดือน ได้ครับ โดยโปรแกรมจะทำการจัดเรียงข้อมูลเองโดยอัตโนมัติตามวันเวลาที่เรากำหนดครับ
วันพุธ, พฤษภาคม 20, 2558
จำหน่าย MikroTik RB450 G
จำหน่าย Mikrotik รุ่น RB450 G ฟรี!! คู่มือการใช้งานภาษาไทย
MikroTik RB450 G เป็น MikroTik Routerboard ที่รองรับเครือข่ายขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง
โดยใช้ซีพียูความเร็ว 680 MHz และหน่วยความจำ 256 MB DDR พร้อมติดตั้ง 5 Gigabit Port
ที่สามารถปรับการทำงานให้เป็นทั้งขา WAN (Internet) เพื่อรองรับการทำ Load Balance ได้อย่างอิสระ
และขา LAN (Network) เพื่อแชร์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในระดับ Gigabit ได้
ตัวเคสเป็นอลูมิเนียมที่ระบายความร้อนได้ดี แข็งแรง ไม่กินไฟ
โดยมีความสามารถดังนี้
- รองรับการทำ WiFi Hotspot Server ได้ถึง 30-50 ผู้ใช้พร้อมๆ กัน (สร้างบัญชีผู้ใช้ได้สูงสุด 200 คน)
- มีระบบการสร้างและจัดการคูปองให้กับผู้ใช้
- สามารถปรับแต่ง ใส่โลโก้ เพื่อกำหนดหน้า Log in ของผู้ใช้ได้อย่างที่ต้องการ
- สามารถบล็อกเว็บไซต์และโปรแกรม BitTorrent ต่างๆ ได้
- สามารถจำกัดเวลา ขนาดในการดาวน์โหลดข้อมูล และความเร็วการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
- รองรับการทำ Port Forward, NAT, และ DDNS
- รองรับการทำ Load Balance ได้มากกว่า 2 เส้นพร้อมกันได้
- รองรับการทำ VPN ได้ทั้งแบบ IPSec และ PPTP
- รองรับการทำ DHCP Server และล็อกหมายเลข IP ของเครื่องผู้ใช้ได้
ดูรายละเอียดได้ที่ www.ez-genius.com
โทร. 02-5096715, 082-5674413, 086-4133928
เมล. admin@ez-genius.com, contact@ez-admin.com
หนังสือ facebook & Web Security
หนังสือเล่มใหม่ "facebook & Web Security" คนเล่น Facebook ต้องอ่าน คนมีเว็บต้องรู้!
EZ-GENIUS เปิดจำหน่ายหนังสือ Facebook & Web Security แล้ววันนี้ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คทุกสาขา (หนังสือเริ่มจำหน่ายทั่วประเทศปลายเดือนธันวาคม 2556)
สนใจสามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้ ย้ำ! หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่มี Facebook และคนมีเว็บไซต์ รวมถึงคนที่นิยมใช้งาน Social Network ทั่วประเทศ
- รู้ทันการ Hack รหัสพาสเวิร์ด Facebook ก่อนถูกยึด Account
- จับตาย Facebook ปลอม ก่อนถูกหลอกลวง
- ปรับแต่งและป้องกันไม่ให้ Facebook ถูก Hack
- ศึกษาช่องโหว่ต่างๆ ของการสร้างเว็บไซต์ ก่อนถูก Hack
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
หลักสูตรการวางระบบ Server ให้ง่ายต่อการกู้คืนและลดความเสียหายจากไวรัสทำลายข้อมูลหรือเข้ารหัสไฟล์ด้วย VMware ESXi & Veeam Backup
หลักสูตรการวางระบบ Server ให้ง่ายต่อการกู้คืนและลดความเสียหายจากไวรัสทำลายข้อมูลหรือเข้ารหัสไฟล์ด้วย VMware ESXi & Veeam Backup ( ระย...
-
หนังสือคอมพิวเตอร์ในเครือ EZ-GENIUS หนังสือ Network Security ฉบับ "ก้าวสู่นักทดสอบและป้องกันการเจาะระบบ" มือใหม่หัด H...
-
Windows Server กับ Linux Server จะเลือกเก่งด้านไหนดี? บทความในตอนนี้ ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องที่ Admin หลายคนกำลังให้ความสนใจกันอยู่ ก็คือ จะเ...
-
SEO (Search Engine Optimization) คือการทำเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ของเราที่อยู่บนระบบเครือข่ายให้ติดอันดับการค้นหาด้วยคำหรือข้อมูล หรือที...