วันพุธ, มิถุนายน 10, 2558

กฏการตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัย

กฏการตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัย

การตั้งรหัสผ่านให้ปลอดภัย เราสามารถทำได้ทันทีและไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่มีเทคนิคนิดหน่อยเท่านั้นก็ทำได้แล้ว กฏของการตั้งรหัสผ่านที่จะนำมาบอกกล่าวนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งรหัสผ่านได้อย่างปลอดภัยมากยิ่่งขึ้น
กฏข้อที่ 1 ความยาวของรหัสผ่านต้องไม่น้อยกว่า 8 ตัวอักษร
ใน Windows เราสามารถตั้งรหัสได้มากถึง 127 หลัก แต่ในความจริงแ้ล้วคงยากที่จะมีใครสามารถจำรหัสได้มากถึงขนาดนั้น การตั้งรหัสให้ไม่น้อยกว่า 8 หลักก็เพียงพอต่อการป้องกันในระดับหนึ่งแล้ว เพียงแต่อย่าใช้คำที่ง่ายเกินไปหรือเป็นคำที่มีความหมายในพจนานุกรม
กฏข้อที่ 2 ไม่ควรใช้คำที่มีความหมายในพจนานุกรมและเดาได้ง่ายเกินไป
การตั้งรหัสผ่านเป็นคำที่มีความหมายในพจนานุกรมเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะทำให้การถอดรหัสสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้รวมถึงคำที่ง่ายเกินไป เช่น ชื่อคน, ชื่อสัตว์, สิ่งที่ชอบ หรือวันเดือนปีเกิด เพราะหาก Hacker เป็นคนที่รู้ข้อมูลของเราก็อาจใช้คำเหล่านี้เดาสุ่มจนสามารถถอดรหัสได้

วันอังคาร, มิถุนายน 09, 2558

การทำรูปติดบัตร 1 นิ้ว และ 2 นิ้ว สำหรับส่งอัดร้านถ่ายรูปดิจิตอล

การทำรูปติดบัตร 1 นิ้ว และ 2 นิ้ว สำหรับส่งอัดร้านถ่ายรูปดิจิตอล

แต่ก่อนที่จะลงมือทำเราจำเป็นจะต้องรู้สัดส่วนของรูปที่นำมาติดบัตรขนาดทั่วๆไปก่อน ดังนี้
ขนาด 1 นิ้ว = 2.50 x 3.25 เซนติเมตร
ขนาด1.5 นิ้ว =  3.00 x 4.00 เซนติเมตร
ขนาด 2 นิ้ว = 4.00 x 5.23 เซนติเมตร
ขนาด 2.5 นิ้ว = 4.75 x 6.25 เซนติเมตร
ขนาด 3 นิ้ว = 6.15 x 7.80 เซนติเมตร

ส่วนรูปขนาดจัมโบ้ จะเป็น 4 x 6 นิ้ว หรือเท่ากับ 10 x 15 เซนติเมตร

โดยการเตรียมรูปที่จะนำมาใช้นั้น ความละเอียดของรูปแนะนำว่าให้ใช้เป็น 300 dpi เพราะจะให้รูปที่ออกมาได้ภาพที่คมชัดสุด ยกตัวอย่างการทำรูปติดบัตรขนาด 1 นิ้ว ด้วยโปรแกรม Photoshop มีขั้นตอน ดังนี้

1. เปิดโปรแกรม Photoshop ขึ้นมา คลิกที่คำสั่ง File > New แล้วกำหนดค่า ดังนี้


  • Width = 2.5 cm, Height = 3.25 cm
  • Ressolution = 300 pixels/inch
  • Color Mode = CMYK Color เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK


2. จากนั้นไปที่คำสั่ง File > Place เพื่อนำรูปที่ต้องการมาวางในไฟล์งานนี้


3. เลือกรูปที่ต้องการนำมาติดหน้าบัตร (รูปนี้ใช้เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น)


4. ปรับขนาดรูปโดยคลิกที่ตำแหน่งมุมของภาพ กดปุ่ม Shift พร้อมขยายรูปให้เต็มกรอบ แล้วย้ายตำแหน่งรูปให้ได้มุมที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter




5. เพิ่มเลเยอร์ใหม่ขึ้นมา โดยคลิกปุ่ม Create a new layer แล้วคลิกเครื่องมือ Rectangle Marquee Tool วาดกรอบรูปให้เว้นขอบนอกไว้เล็กน้อย ดังรูป

 

6.  ไปที่คำสั่ง Select > Inverse เพื่อให้เลือกพื้นที่ตรงกันข้ามกับเส้น Selection ที่เราเลือก ดังรูป




7.  คลิกที่เครื่องมือ Set Forground Color จะมีหน้าต่าง Color Picker ให้เราเลือกเป็นสีขาวแล้วคลิกปุ่ม OK




8. จากนั้นคลิกเครื่องมือเทสี Paint Bucket Tool แล้วคลิกเทสีลงไปในเส้น Selection ดังรูป


ยกเลิกเส้น Selection โดยไปที่ Select > Deselect

9. ให้เราลบเลเยอร์ Background ทิ้ง โดยเลือกที่เลเยอร์แล้วคลิกที่รูปถังขยะ แล้วทำการรวมเลเยอร์ทั้งหมดโดยคลิกเลือก เลเยอร์ (กดปุ่ม Ctrl + Layer ที่ต้องการ) คลิกขวาเลือกคำสั่ง Merge Layer 




10. เมื่อเราได้รูปที่ต้องการแล้ว เพื่อป้องการเมื่อเรานำรูปไปใช้งานแล้วมีส่วนเกินออกมาให้เราทำการ Crop รูป โดยเลือก
เครื่องมือ
Crop Tool ลากคลุมเฉพาะในกรอบรูปที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม Enter ดังรูป




11. ต่อไปก็ใส่เส้นขอบโดยใช้ฟังก์ชั่น  Add a layer style > Stroke… ที่หน้าต่าง Layer Styleให้กำหนดค่าดังนี้     


12. เมื่อเราใส่เส้นขอบเรียบร้อยแล้วให้เราทำการบันทึกรูป โดยไปที่คำสั่ง File > Save AS เลือกตำแหน่งที่ต้องการบันทึก ตั้งชื่อไฟล์ที่ช่อง File name ที่ช่อง Format เลือกนามสกุลไฟล์ที่ต้องการจัดเก็บเป็น JPEG แล้วคลิกปุ่ม OK


13. จากนั้นเราจะนำรูปที่ทำเป็นขนาด  1 นิ้วแล้วไปวางบนขนาดรูปจัมโบ้ (4x6 นิ้ว) โดยสร้างไฟล์งานใหม่ขึ้นมาไปที่คำสั่งFile > New ที่หน้าต่าง New กำหนดค่า ดังนี้


  • Width = 10 cm, Height = 15 cm (ขนาดของรูป 4x6 นิ้ว)
  • Resolution = 300 pixels/inch
  • Color Mode = CMYK Color (สีที่ใช้สำหรับสื่อสิ่งพิมพ์)

14. เมื่อได้ไฟล์งานใหม่แล้วก็ให้เราไปนำรูปที่ทำเป็นขนาด 1 นิ้วมาวาง โดยไปที่คำสั่ง File > Place เลือกตำแหน่งที่จัดเก็บรูป > เลือกรูป > คลิกปุ่ม Place แล้วกดปุ่ม Enter อีกครั้งเพื่อวางรูป



15. คลิกที่เครื่องมือ Move Tool แล้วคลิกเลือกที่เลเยอร์รูปย้ายไปวางตำแหน่งที่ต้องการ



16. เมื่อได้ตำแหน่งของรูปที่หนึ่งแล้วให้เราคัดลอกแล้ววางเรียงซ้อนกันจนครบตามต้องการ โดยกดปุ่ม Alt + Shift ที่คีย์บอร์ดค้างไว้พร้อมลากรูปออกมา เป็นการคัดลอกรูปโดยที่รูปจะอยู่ในระนาบเดียวกัน ดังนี้ (ทุกครั้งที่คัดลอกหนึ่งรูปจำนวนเลเยอร์ก็จะเพิ่มขึ้นมารูปรูปขนาดจั้มโบ้ 4x6 นิ้ว จะสามารถวางรูปขนาด 1 นิ้วได้ประมาณ 16 รูป




แล้วบันทึกเป็นไฟล์ JPEG ไปให้กับทางร้าน เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 28, 2558

การฟอร์เวิร์ดพอร์ตให้กับ MIKROTIK

การฟอร์เวิร์ดพอร์ตให้กับ MIKROTIK

     สำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่หลัง MikroTik Router หากต้องการทำฟอร์เวิร์ดพอร์ต เพื่อให้เครื่องจากภายนอกสามารถติดต่อเข้ามายังเครื่องภายในได้ ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
  1. คลิกเมนู IP > Firewall ที่หน้าต่าง Firewall ให้คลิกแท็บ NAT แล้วคลิกปุ่ม +
  2. ที่หน้าต่าง NAT Rule ให้คลิกแท็บ General แล้วกำหนดค่าดังนี้
  3. ที่คำสั่ง Chain ให้เลือกเป็น dstnat
  4. ที่คำสั่ง Protocol ให้เลือกเป็น 6 (tcp)
  5. ที่คำสั่ง Dst. Port ให้กำหนดหมายเลขพอร์ตของโปรแกรมที่ต้องการทำฟอร์เวิร์ดพอร์ต ในตัวอย่างนี้กำหนดเป็นหมายเลข 3389 ก็คือพอร์ตของโปรแกรม Remote Desktop
  6. ที่คำสั่ง In. Interface กำหนดเป็นขา WAN ที่ออกอินเทอร์เน็ต
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม http://www.ez-genius.com/index.php/presets/about-mikrotik/109-forword-port-mikrotik

วันเสาร์, พฤษภาคม 23, 2558

การจัดเรียงข้อมูลด้วยฮาร์ดดิสก์ Disk Defragment

Defragment หรือ Defragmentation คือการสั่งให้ฮาร์ดดิสก์จัดเรียงข้อมูลใหม่ ซึ่งตามปกติแล้วฮาร์ดดิสก์จะจัดเก็บข้อมูลแบบสุ่ม ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ฮาร์ดดิสก์จัดเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แต่ผลเสียที่ตามมาในระยะยาวนั้นก็คือต้องใช้เวลาในการหาไฟล์ต่างๆ เป็นเวลานานขึ้น เป็นเหตุให้ฮาร์สดิสของเราทำงานได้ช้าลงด้วยเช่นกัน หรือแม้แต่การแก้ไข ย้ายไฟล์ หรือลบไฟล์ต่างๆ ก็ทำให้เกิดการจัดเรียงไม่ได้ถูกจัดเรียงด้วยนั้นเอง
Defragment เป็นโปรแกรมหรือคำสั่งที่ติดมากับระบบปฏิบัติการของวินโดว์อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องหามาติดตั้งเอง วิธีการจัดเรียงข้อมูลด้วยคำสั่ง Defragmentation ( แต่ละวินโดว์จะใช้คำสั่งไม่เหมือนกันแต่คือชุดคำสั่งเดียวกันครับ ตัวอย่างนี้เป็น Windows 7)

1. ดับเบิ้ลคลิกที่ My Computer คลิกขวาเลือกไดรฟ์ที่เก็บข้อมูล เช่น Drive (C:) จากนั้นคลิกคำสั่ง Properties > คลิกแท็บ Tools > จากนั้นคลิกที่คำสั่ง Defragment now...  (หรือไปที่ Start > Accessories > System Tools > เลือก Disk Defragmenter ก็ได้เช่นกัน)

2.ที่หน้าต่าง Disk Defragmenter จะมีไดรฟ์ขึนมาให้เลือกและแสดงการกระจายของข้อมูลในไดร์ฟเป็น% และแสดงปุ่มคำสั่งที่ใต้กรอบคือ Analyze disk และ Defragment disk โดย Analyze คือ การให้ระบบตรวจสอบ Fragmented หรืออัตราการกระจายของข้อมูลที่ไม่ได้จัดเรียง ส่วน Defragment disk คือการสั่งให้ตรวจสอบ Fragmented พร้อมกับการจัดเรียงข้อมูลให้เรียบร้อยเลย

3.เลือกไดรฟ์ที่ต้องการและคลิกเลือกปุ่ม Analyze disk หรือ Defragment disk ได้เลย (ถ้าข้อมูลมีการกระจายมากหรือพื้นที่ของไดรฟ์ขนาดใหญ่อาจใช้เวลานานพอสมควร) เสร็จแล้วเปอร์เซ็นของ Fragmented จะเป็น 0% นั้นคือไม่มีการกระจายของข้อมูลในไดร์ฟของเราแล้ว 


เราสามารถตั้งเวลาให้ทำการจัดเรียงข้อมูลเอง โดยตั้งได้ผ่านคำสั่ง Configure schedule… เลือกให้ทำเป็นแบบนี้ ทุกวัน/วัน/เดือน ได้ครับ โดยโปรแกรมจะทำการจัดเรียงข้อมูลเองโดยอัตโนมัติตามวันเวลาที่เรากำหนดครับ


วันพุธ, พฤษภาคม 20, 2558

จำหน่าย MikroTik RB450 G

จำหน่าย Mikrotik รุ่น RB450 G ฟรี!! คู่มือการใช้งานภาษาไทย





MikroTik RB450 G เป็น MikroTik Routerboard ที่รองรับเครือข่ายขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง
โดยใช้ซีพียูความเร็ว 680 MHz และหน่วยความจำ 256 MB DDR พร้อมติดตั้ง 5 Gigabit Port
ที่สามารถปรับการทำงานให้เป็นทั้งขา WAN (Internet) เพื่อรองรับการทำ Load Balance ได้อย่างอิสระ
และขา LAN (Network) เพื่อแชร์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในระดับ Gigabit ได้
ตัวเคสเป็นอลูมิเนียมที่ระบายความร้อนได้ดี แข็งแรง ไม่กินไฟ

โดยมีความสามารถดังนี้

  1. รองรับการทำ WiFi Hotspot Server ได้ถึง 30-50 ผู้ใช้พร้อมๆ กัน (สร้างบัญชีผู้ใช้ได้สูงสุด 200 คน)
  2. มีระบบการสร้างและจัดการคูปองให้กับผู้ใช้
  3. สามารถปรับแต่ง ใส่โลโก้ เพื่อกำหนดหน้า Log in ของผู้ใช้ได้อย่างที่ต้องการ
  4. สามารถบล็อกเว็บไซต์และโปรแกรม BitTorrent ต่างๆ ได้
  5. สามารถจำกัดเวลา ขนาดในการดาวน์โหลดข้อมูล และความเร็วการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้
  6. รองรับการทำ Port Forward, NAT, และ DDNS
  7. รองรับการทำ Load Balance ได้มากกว่า 2 เส้นพร้อมกันได้
  8. รองรับการทำ VPN ได้ทั้งแบบ IPSec และ PPTP
  9. รองรับการทำ DHCP Server และล็อกหมายเลข IP ของเครื่องผู้ใช้ได้


ดูรายละเอียดได้ที่ www.ez-genius.com
โทร. 02-5096715, 082-5674413, 086-4133928
เมล. admin@ez-genius.com, contact@ez-admin.com

หนังสือ facebook & Web Security

หนังสือเล่มใหม่ "facebook & Web Security" คนเล่น Facebook ต้องอ่าน คนมีเว็บต้องรู้!


EZ-GENIUS เปิดจำหน่ายหนังสือ Facebook & Web Security แล้ววันนี้ที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คทุกสาขา (หนังสือเริ่มจำหน่ายทั่วประเทศปลายเดือนธันวาคม 2556)
สนใจสามารถจองได้ตั้งแต่วันนี้ ย้ำ! หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่มี Facebook และคนมีเว็บไซต์ รวมถึงคนที่นิยมใช้งาน Social Network ทั่วประเทศ







  • รู้ทันการ Hack รหัสพาสเวิร์ด Facebook ก่อนถูกยึด Account
  • จับตาย Facebook ปลอม ก่อนถูกหลอกลวง
  • ปรับแต่งและป้องกันไม่ให้ Facebook ถูก Hack
  • ศึกษาช่องโหว่ต่างๆ ของการสร้างเว็บไซต์ ก่อนถูก Hack



หลักสูตรการวางระบบ Server ให้ง่ายต่อการกู้คืนและลดความเสียหายจากไวรัสทำลายข้อมูลหรือเข้ารหัสไฟล์ด้วย VMware ESXi & Veeam Backup

หลักสูตรการวางระบบ Server ให้ง่ายต่อการกู้คืนและลดความเสียหายจากไวรัสทำลายข้อมูลหรือเข้ารหัสไฟล์ด้วย VMware ESXi & Veeam Backup ( ระย...